นโยบายของรัฐบาลสหรัฐห้ามมิให้ผู้หญิงทำแท้งตามโรงพยาบาลหรือคลินิกเอง ดังนั้นกองทัพสหรัฐจึงมีนโยบาลช่วยเหลือคนในองค์กรให้ได้รับการทำแท้งที่ปลอดภัยโดยทีมแพทย์ภายในองค์กร นี่เป็นสิ่งที่รัฐบาลทำผลงานชิ้นโบว์แดงให้สังคมได้รู้ว่าการช่วยเหลือหญิงเหล่านั้นดีอย่างไร
การศึกษานี้ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสารประเด็นปัญหาสุขภาพของผู้หญิง, มีการทำโผลสำรวจประชาชนทั่วไปโดยไม่ระบุตัวตนจากหญิงตั้งครรภ์ 500 คน ในกองทัพสหรัฐหรือภรรยาของทหารภายในกองทัพระหว่างเดือนมกราคม 2018 ถึง ธันวาคม 2019
พบว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ที่อยู่ในประเทศที่มองการทำแท้งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เช่นอาเจนติน่า แมกซิโก บราซิล เอกวาดอร์ ปารากวัย ชิลี เวเนซูเอล่า โดยมีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ที่อาศัยอยู่ในป่าริมทะเลอธิบายถึงความกังวลว่าการทำแท้งในประเทศตนจะทำให้ตนถูกฝ่ายความมั่นคงจับกุมดำเนินคดี
ผู้หญิงคนหนึ่งกลัวว่าเธอกักตัวหากพบว่ากำลังตั้งท้องในเขตสงคราม เขาเล่าว่าเขาตั้งครรภ์และอายุครรภ์มันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจะให้เขารอได้อย่างไรถ้าไม่ทำแท้งเสียตั้งแต่ตอนนี้
ผู้หญิงอีกคนเล่าว่า “ ฉันตั้งครรภ์แต่ฉันไม่รู้จะออกไปทำแท้งได้อย่างไรเพราะสถานที่ทำแท้งอยู่ในเมืองในขณะที่ฉันอยู่ในเขตชายแดน
ผู้หญิงคนหนึ่งคิดจะฆ่าตัวตายเพราะไม่มีทางออกประกอบกับความเครียดเป็นอย่างมาก เธอเล่าว่า“ ฉันถูกทหารคนหนึ่งขมขื่นและตั้งครรภ์ แต่ฉันไม่ได้บอกทหารคนนั้นว่าฉันท้อง ฉันถูกส่งไปประจำการที่เขตสงครามทำให้ฉันท้อแท้และหมดหวัง
จากการสำรวจเหล่านี้ ทำให้ท้ายที่สุดกองทัพสหรัฐตัดสินใจตั้งทีมแพทย์เพื่อช่วยเหลือหญิงเหล่านี้ให้สามารถแก้ปัญหาท้องไม่พร้อมได้อย่างสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี